ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น เดินหน้าบริการ healthcare solutions พบการจัดส่งกระดาษซับเลือดเด็กทารกแรกเกิดฯ ตรวจภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนแต่กำเนิด ด้วยระบบ EMS ในปี65 ตรงตามเป้ามากถึงร้อยละ 99.97  คาดช่วยลดการสูญเสียทางเศรษฐศาสตร์ได้ปีละกว่า 4,000 ล้านบาท   

นาย พีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด(ปณด) กล่าวว่า “โครงการจัดส่งกระดาษซับเลือดเด็กทารกแรกเกิดหลังคลอด 48 ชั่วโมง “ เพื่อนำไปใช้คัดกรอง ตรวจสอบโรคและความผิดปกติของทารกแรกเกิดจากโรงพยาบาล โดยเฉพาะภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนแต่กำเนิดหรือภาวะปัญญาอ่อน เพื่อลดการสูญเสีย ทันต่อการรับยาและเข้ารับการรักษาภายใน  14 วัน เป็นอีกหนึ่งงานบริการขนส่งด้านยาและเวชภัณฑ์ ( healthcare solutions) ที่ปณด มีความภูมิใจในการมีส่วนร่วมดูแลคนไทยตั้งแต่แรกเกิด

โดยได้ร่วมพัฒนากระบวนการจัดส่งทั่วประเทศในรูปแบบไปรษณีย์ด่วนพิเศษหรือ EMS ภายใน 3วันทำการ พร้อมทั้งนำเทคโนโลยี API (Application Programming Interface)ในการเชื่อมต่อข้อมูลและบริหารจัดการด้วยระบบบันทึกข้อมูลล่วงหน้า (Order Management System, OMS) มาใช้ดำเนินการร่วมกับทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ตั้งแต่ปี 2563ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานจัดส่งตัวอย่างด้วยระบบ EMS จากโรงพยาบาลมายังกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ตามกำหนดภายใน 3 วันทำการ พบว่า ในปี 2565 มีมากถึงร้อยละ 99.97   และจากข้อมูลของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า หากตรวจพบเด็กทารกแรกเกิดที่มีภาวะพร่องไทรอยด์แต่กำเนิด และดำเนินการได้ทันเวลาภายใน  14 วัน จะช่วยป้องกันภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนหรือภาวะปัญญาอ่อน ในทารกกลุ่มนี้ได้ปีละประมาณ 550 คน ช่วยลดการสูญเสียทางเศรษฐศาสตร์ได้กว่า 4,000 ล้านบาท ( เด็กป่วย 1 ราย จะมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา 8.3 ล้านบาทต่อคน) 

จากความสำเร็จที่มีประสิทธิภาพดังกล่าว ในช่วงปลายปี 2565 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้เริ่มขยายจุดตรวจ ณ ศูนย์บริการคัดกรองทารกแรกเกิดตามโรงพยาบาลและสถานพยาบาลหลักทั่วประเทศ เพื่อช่วยลดขั้นตอนและลด      ระยะเวลาในการรักษาโรคภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนหรือภาวะปัญญาอ่อน  ทำให้เด็กทารกแรกเกิดเข้าถึงบริการง่ายขึ้น และต่อเนื่องมาถึงในปี2566 ที่กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายเพิ่มขยายศูนย์บริการคัดกรองทารกแรก 7 แห่ง ครอบคลุม 13 เขตสุขภาพตามการดูแลของ สปสช. โดยขณะนี้อยู่ระหว่างทยอยเปิดให้บริการ ที่เริ่มให้บริการแล้ว ได้แก่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  รพ.รามาธิบดี  รพ.ศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น  และเร็วๆนี้ที่ รพ.สงขลานครินทร์      รพ.ศิริราช  รพ.จุฬาลงกรณ์ และสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี   

ด้วยความตระหนักว่างานบริการ Healthcare solutions  เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับคุณภาพชีวิตของคนไทย ดังนั้นปณด จึงยึดมั่นในเรื่องมาตรฐานของ WHO เพื่อนำมาใช้ในงานบริการด้านโลจิสติกส์ พร้อมนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาบริหารจัดการกระบวนการจัดส่ง เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในระบบการจัดเก็บและจัดส่งยา ( GSP : Good Storage Practice  / GDP : Good Distribution Practices )เป็นสำคัญ