บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของไปรษณีย์ไทย จำกัด จัดทำโครงการ“ส่งแมส แทนความห่วงใย “ เพื่อนำส่งหน้ากากอนามัย หรือแมสให้กับผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง ใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 ครบทั่วประเทศภายในเดือนนี้ พร้อมเดินหน้า ให้บริการจัดส่งน้ำยาล้างไตถึงบ้านผุ้ป่วย ตามระบบ FEFO (First Expire First Out ) ด้วยมาตรฐานการจัดเก็บแบบ GSP ด้วยแผนจัดส่งแบบ GDP ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เดือนละประมาณ 5.5 ล้านถุง
นาง วรรณพร เทพหัสดิน ณ.อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (เลขาธิการ สดช.) ในฐานะ ประธานกรรมการบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น ( ปณด ,) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า ถือเป็นความภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ทางบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น ได้รับความไว้วางใจ และมีส่วนร่วมต่อสังคม ในการช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง ที่อยู่ในโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ ผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง ทั่วประเทศ ด้วยการให้บริการขนส่งน้ำยาล้างไต ยาและเวชภัณฑ์ ร่วมกับ องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ใน“โครงการจัดส่งน้ำยาล้างไต ” ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา
ประกอบกับในปีนี้ เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด -19 ทาง บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จึงได้จัดทำโครงการ“ส่งแมส แทนความห่วงใย “ เพื่อนำส่งหน้ากากอนามัย หรือแมสให้กับผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง ใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 อีกทั้งยังพบว่า กลุ่มผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง จัดเป็น 1ใน 8 กลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงจะเกิดอาการรุนแรง หากติดเชื้อการแพร่ระบาดโควิด- 19 จากเหตุผลดังกล่าวทางบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จึงเร่งทยอยจัดส่งตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะส่งถึงมือผู้ป่วยครบ 30,000 รายภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้
ทางด้าน นายพีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัทไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น กล่าวว่า โครงการจัดส่งน้ำยาล้างไต เป็นภารกิจสำคัญ ที่เป็นเรื่องเกี่ยวพันกับชีวิตผู้ป่วย เพราะหากเกิดปัญหาความล่าช้า ไม่ทันท่วงที ผู้ป่วยอาจเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ ทั้งนี้ การล้างไตผ่านช่องท้อง เป็นแนวทางที่ช่วยให้ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกลในต่างจังหวัด ถิ่นทุรกันดาร การคมนาคมไม่สะดวก แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์และศูนย์บริการการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม มีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้น ผู้ป่วยจึงจำเป็นจะต้องล้างไตผ่านช่องท้องที่บ้าน และต้องรับน้ำยาล้างไต อย่างสม่ำเสมอ ทุกวัน ซึ่งปัจจุบัน บริษัทไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น ได้ให้บริการจัดส่งถึงบ้านผุ้ป่วย พร้อมจัดเรียงตามระบบ FEFO (First Expire First Out ) ด้วยมาตรฐานการจัดเก็บแบบ GSP ด้วยแผนจัดส่งแบบ GDP ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เดือนละประมาณ 5.5 ล้านถุง
ที่ผ่านมาบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จึงมีส่วนร่วมที่ส่งต่อความหวังให้กับผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ในโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า และด้วยความตระหนักถึงเรื่องดังกล่าว จึงได้มีการวางระบบควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของการจัดส่ง น้ำยาล้างไต ให้ถูกต้อง ครบถ้วน ตรงเวลา สามารถตรวจสอบติดตามการจัดส่ง จากระบบ Track ของบริษัทได้ เพื่อผู้ปวยได้มียาใช้อย่างต่อเนือง
นอกจากนี้ ทางบริษัทไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น ได้ยึดมั่นในการให้บริการที่มีคุณภาพ ตามหลักมาตรฐานสากล เป็นสำคัญ จึงนำมาสู่การพัฒนาการบริการระบบขนส่ง และคลังสินค้า ที่ได้การรับรองมาตรฐานด้วยระบบคุณภาพ ISO9001 และมาตรฐาน GSP (Good Storage Practice)ในการจัดเก็บสินค้าโดยมีการบริหารผ่านระบบการจัดการสินค้าหรือ WMS ( Warehouse Management System) ที่ทันสมัยระดับแนวหน้าของประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะเดียวกันได้ให้ความสำคัญในการจัดเก็บและรักษาคุณภาพของสินค้า โดยให้บริการพื้นที่ด้วยระบบการควบคุมอุณหภูมิห้องที่แบ่ง เป็นสินค้าทั่วไป และห้องอุณหภูมิพิเศษสำหรับสินค้าพิเศษ อย่างสินค้าประเภทยาและเวชภัณฑ์
ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว ส่งผลให้ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น ได้ผ่านการตรวจประเมินต่ออายุและรับรองมาตรฐานจากหลายแห่ง ได้แก่ ระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001: 2015 ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001: 2015 และหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการจัดเก็บและจัดส่งยา (GSP/GDP)จากบริษัท ยูไอซี เซอร์ติฟิเคชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด และล่าสุด ได้รับการรับรอง มาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก (Q Mark) เมื่อปี ค.ศ. 2019 หรือพ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะเป็นบทพิสูจน์ที่ช่วยยืนยันความมุ่งมั่นของ บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น ในการพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยล้างไตผ่านช่องท้องให้ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต