ปณด.ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก.สาธารณสุข  บริการขนส่งตัวอย่างเลือดและ DNA.จากสถานพยาบาลทั่วประเทศ  เพื่อใช้วิจัยโครงการ Genomics Thailand  เริ่มนำร่องสถานพยาบาล 20 แห่ง ปลายเดือนมี.ค.นี้

นายพีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด  เปิดเผยว่า ด้วยคุณภาพ และมาตรฐานในการจัดเก็บและขนส่งสินค้าตามหลักสากล  ทำให้บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น   ได้รับความไว้วางใจจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ในการขนส่งตัวอย่างเลือด จากสถานพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อและจัดส่ง DNA. เพื่อใช้วิจัยในโครงการ Genomics Thailand โดยจะเริ่มดำเนินการได้ช่วงปลายเดือนมีนาคม นี้

โดยตัวอย่างเลือดเพื่อการวิจัย ที่ดำเนินการจัดส่งในครั้งนี้ จะมีการควบคุมอุณหภูมิระหว่าง 2 ถึง 8 องศาเซลเซียส เริ่มจากสถานพยาบาล20 แห่งทั่วประเทศ ไปยังกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ภายใน 2 วันทำการ ส่วนการจัดส่ง DNA.  จะควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ระหว่าง  - 10 ถึง -20 องศาเซลเชียส  จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ไปยังศูนย์บริการ Genomics  Thailand  ที่ตั้งอยู่ มหาวิทยาลัยบูรพา  จังหวัดชลบุรี ภายใน 6 ชั่วโมง

 ซึ่งรูปแบบการจัดส่งดังกล่าว สอดคล้องกับ การดำเนินการของบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด  ที่มีการพัฒนาระบบจัดส่ง ผ่านแอพพลิเคชั่น หรือ แพตฟอร์ม  เชื่อมต่อกับสถานพยาบาลหรือ หน่วยงานที่รับบริการ พร้อมทั้งให้บริการรถขนส่งควบคุมอุณหภูมิ และ Cooler box mobile ตามหลักมาตรฐานสากล  นอกจากนี้ยังสามารถตรวจ ติดตาม สถานะการขนส่งได้ตลอดเวลา(Real Time tracking) พร้อมข้อมูลในการควบคุมอุณหภูมิตลอดเส้นทาง (Data Logger)

อีกทั้ง มีความพร้อมในการจัดเก็บสินค้าประเภทยาและเวชภัณฑ์ที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ โดยมีระบบบริการห้องเย็นเก็บรักษาสินค้า (Cold Storage Warehouse) รองรับคุณภาพตามมาตรฐาน ISO9001 และมาตรฐาน GSP (Good Storage Practice) ที่ดำเนินการผ่านระบบจัดการสินค้าหรือ WMS ( Warehouse Management System) ที่ทันสมัย 

ขณะที่การขนส่ง ได้พัฒนานำระบบ  GDP ที่ทันสมัยมาใช้  โดยพนักงานขับรถมีความพร้อมอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน Q-MARK และ ISO รับรองแผนการจัดส่งและส่งมอบที่ตรงเวลา On Time Delivery  สามารถตรวจสอบสถานะได้   ซึ่งในปี2564 นี้ บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด ได้จัดทำโครงการ Data Provider (VMI : EDI Consignment) for Pharmaceutical ที่จะพัฒนาต่อยอดการให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มยาและเวชภัณฑ์ไปสู่ระดับการบริหารจัดการข้อมูลรูปแบบ Big Data เพื่อพัฒนาศักยภาพในการให้บริการ อีกด้วย

/////////////////////////////////